Last updated: 1 ส.ค. 2567 | 628 จำนวนผู้เข้าชม |
ผักที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอย่าง กะหล่ำปลี ที่บางคนอาจจเรียก กะหล่ำใบ ผักรูปร่างกลม มีหลากหลายสีตามแต่ละชนิด เช่น ใบสีเขียวอ่อน สีแดง และสีม่วง ที่จะนำมาตกแต่งจานอาหารก็ได้ หรือเอามาปรุงอาหารได้สารพัดเมนูก็ดี ด้วยความกรอบของกะหล่ำปลีรสชาติที่เมื่อต้มจะหวาน และอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทำให้ผักชนิดนี้กลายเป็นผักที่คนนิยมรับประทานกันทั่วโลก
สารอาหารใน กะหล่ำปลี 100 กรัม
อ้างอิงจาก fdc.nal.usda.gov
พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่
โปรตีน 1.3 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 5.8 กรัม
ไขมัน 0.1 กรัม
น้ำตาล 3.2 กรัม
ใยอาหาร 2.5 กรัม
โดยปกติแล้ว เรามักจะกินกะหล่ำปลี ทั้งในรูปแบบที่ผ่านการปรุงสุกและกินดิบ กินสด ๆ แกล้มอาหารรสจัดอย่างส้มตำ แหนม ซึ่งการทาน กะหล่ำปลีดิบ นั้น หลายคนก็บอกว่าทานได้ แต่มีงานวิจัยออกมาว่า การกินกะหล่ำปลีดิบนั้น ไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วความจริงคือแบบไหนกันแน่นะ ?
กะหล่ำปลี ห้ามกินดิบ จริงหรือไม่ ?
หากเรากินกะหล่ำปลีดิบ เราจะได้รับสิ่งเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย
สรุปแล้วว่า เราสามารถกิน กระหล่ำปลีดิบ ได้ แต่ไม่ควรกินบ่อยหรือกินในปริมาณที่มากเกินไป ยกเว้นในผู้ที่ป่วยเป็นโรคตามที่ได้กล่าวไปนั่นเองค่ะ
1. ปรุงให้สุกก่อนกิน
ไม่ว่าจะผ่านการต้ม ลวก นึ่ง ผัด การทำให้กะหล่ำปลีสุกก่อนกิน ความร้อนจากการปรุงอาหารจะช่วยละลายสาร Goitrogen ให้มีปริมาณน้อยลง แม้จะลดปริมาณวิตามินลงไปบ้างแต่หากเราเลือกวิธีการนึ่ง จะเป็นวิธีการปรุงสุกที่คงคุณค่าทางอาหารไว้มากที่สุด
2. ล้างผักให้สะอาด
วิธีการล้าง กะหล่ำปลี ให้สะอาดและลดสารพิษตกค้างได้ถึง 60% นั่นคือ การใช้น้ำไหลผ่าน เป็นวิธีที่ง่ายแต่ต้องอาศัยความละเอียดในการชะล้างผักทีละใบให้สะอาด ก่อนที่จะนำไปปรุงอาหารต่อ หรือจะลอกกะหล่ำปลีออกทีละใบ แล้วแช่น้ำสะอาดไว้ราว ๆ 8-10 นาที ก็จะช่วยออมแรงไปได้
3. เลือกทานในปริมาณที่พอดี
อย่างที่ได้บอกไปว่า หากทานกะหล่ำปลีมากจนเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายมากกว่าประโยชน์ เฉลี่ยแล้วใน 1 วันเราควรรับประทานกะหล่ำปลีไม่เกิน 100 กรัมร่วมกับผักชนิดอื่น ๆ เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่หลากหลายและสารอาหารที่ดีต่อร่างกายอย่างครบถ้วน
การทาน กะหล่ำปลี มีทั้งประโยชน์และโทษที่คละกันไป แต่อย่างไรก็ตาม การทานกะหล่ำปลี อย่างถูกวิธีในปริมาณที่พอเหมาะ มันจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากสารอาหารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในกะหล่ำปลีได้โดยไม่เกิดโทษ พร้อมกับได้สุขภาพที่ดีตามไปด้วยค่ะ
11 ต.ค. 2567
11 ต.ค. 2567
27 ก.ย. 2567